หลักการใช้และบำรุงรักษาเครื่องดนตรีของไทย ๑.
เครื่องดนตรีประเภทมีลิ่มนิ้ว ใช้ผ้าสักหลาดหรือผ้าแห้ง เช็ดถูที่ตัวเครื่องและบริเวณลิ่มนิ้วให้สะอาด ปิดฝาครอบแล้วใช้ผ้าคลุมให้เรียบร้อย 5. เครื่องดนตรีประเภทเครื่องตี ใช้ผ้านุ่มเช็ดตัวเครื่องและส่วนที่ใช้ตีให้สะอาดก่อนและหลังการเล่นทุกครั้ง และเก็บเครื่องดรตรีใส่กล่องหรือใช้ผ้าคลุมทุกครั้งที่เล่นเสร็จแล้ว
หลังเลิกเล่นทุกครั้งต้องลดสาย ปลดเชือกหรือทำอย่างอื่นตามลักษณะเฉพาะของเครื่องดนตรีแต่ละชนิดให้อยู่ในสภาพที่จะเก็บหรือไม่ใช้งาน 2. ทำความสะอาดเครื่องดนตรีแต่ละชนิดด้วยน้ำยา และอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับเครื่องดนตรีแต่ละชนิด 3. เก็บใส่ภาชนะที่มีลักษณะเฉพาะของเครื่องดนตรีแต่ละชนิด 4. เก็บไว้ในที่ที่มีความเหมาะสม วิธีเก็บรักษาเครื่องดนตรีไทย 1) การเก็บรักษาขลุ่ย 1. หลังการเป่าควรเช็ดให้สะอาด 2. เก็บใส่ถุงให้เรียบร้อย 3. หากเลาขลุ่ยแตก ให้ใช้กาวติด 2) การเก็บรักษาซอ 1. เมื่อเลิกเล่นให้ลดสายด้วยการหมุนลูกบิดลงประมาณครึ่งรอบ แล้วเลื่อนหมอนรองสายขึ้นไว้บนขอบกะโหลกซอ 2. ทำความสะอาดโดยใช้ผ้าแห้งเช็ด 3. แขวนหรือใส่ถุงเก็บใส่ตู้ให้มิดชิด 3) การเก็บรักษาจะเข้ 1. เก็บไว้ในตู้และคลุมด้วยผ้าที่เย็บเข้ารูป 2. เมื่อใช้บรรเลงเสร็จ ไม่ควรลดสาย เพราะสายจะเข้กับหย่องจะเสียดสีกัน ทำให้หย่องสึก 3. หากนมจะเข้หลุด ให้ใช้กาวติดไว้ในตำแหน่งเดิม 4) การเก็บรักษาระนาดเอก–ระนาดทุ้ม 1. ปลดเชือกคล้องหูระนาดข้างซ้ายมือลงข้างหนึ่ง 2. ใช้ผ้าคลุม กันฝุ่นจับ 3. ถ้าเลิกใช้งานโดยถาวร ควรม้วนผืนระนาดเก็บ การม้วนผืนระนาดควรหาผ้ารองหลังผืนระนาดเพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอย 4.
เมื่อบรรเลงเสร็จควรปิดฝาขิม ๓. การเก็บไม้ขิมควรมีกล่องใส่ที่มิดชิด หรือถ้าเป็นถุงต้องระมัดระวังจากการกระทบกระเทือนเพราะไม้ตีมี ความอ่อนแอมาก ๔. การทำความสะอาดขิม ควรใช้ที่ปัดฝุ่นหรือแปรงขนาดเล็กปัด เพราะผ้าไม่สามรถเข้าไปในซอก เล็กๆของ ขิม ได้ กลอง กลองทัด กลองยาว ๑ ในกรณีกลองประเภทที่ต้องใช้ข้าวติดหน้ากลอง ให้ทำความสะอาดโดยการใช้ผ้าเปียกน้ำพอหมาดๆเช็ดหน้ากลองให้สะอาด ๒ นำกลองที่ทำความสะอาดแล้วใช้ผ้าคลุมหรือนำผ้าไปตัดเป็นถุงใส่ เพื่อกันความชื้น ๓ ตรวจสอบคุณภาพความตึงของเสียงกลองให้ได้มาตรฐานอยู่เสมอ วิธีการใช้และการดูแลรักษาเครื่องดนตรีไทยประเภทเครื่องสี ซอด้วงและซออู้ ๑. ผู้บรรเลงควรขึ้นสายซอ และเลื่อนหย่องหรือหมอน(ใช้หนุนสายซอ) ให้อยู่กึ่งกลางของหน้าซอ จากนั้นเทียบเสียงของซอตามประเภทซอนั้นๆ ผู้บรรเลงนั่งตัวตรง มือซ้ายจับคันซอเพื่อกด สายซอ มือขวา จับคันชักวางกะโหลกซอตรงหน้าขาซ้ายข้างลำตัวของผู้บรรเลง ๒. เมื่อบรรเลงเสร็จ ควรลดสายและปลดหย่อง เลื่อนหมอนขึ้นไว้บนขอบกะโหลกซอ เพื่อป้องกัน หน้าซอยุบตัวจากการกดทับของสาย และเก็บคันชักซอคล้องไว้กับลูกบิด โดยนำส่วนที่ใช้จับขึ้น ด้านบน ๓. ควรใช้ผ้าที่มีความนุ่มและแห้งเช็ดซอทุกครั้งจากการบรรเลงเสร็จโดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วน กะโหลกซอ เพราะจะมีฝุ่นของยางสนติดสะสมอยู่ ๔.
การดูแลรักษาเครื่องดนตรีสากล By Kru May - YouTube
การถือซอให้แนบกับลำตัวโดยตั้งฉากกับพื้น ไม่แกว่งไปมา ๕. ไม่ควรพิงซอไว้ข้างฝาผนัง หรือวางชิดขอบโต๊ะ เพราะอาจล้มหรือตกจนเกิดความเสียหายได้ ๖. ควรใส่ถุงเก็บเพื่อสะดวกในการเก็บและถือ วิธีการใช้และการดูแลรักษาเครื่องดนตรีไทยประเภทเครื่องเป่า ขลุ่ย และปี่ ขลุ่ยเพียงออ (เป็นเครื่องดนตรีไทยประเภทเครื่องเป่าชนิดไม่มีลิ้น) ๑. ท่านั่งในการเป่า ผู้เป่าสามารถนั่งได้ทั้งท่าพับเพียบและนั่งขัดสมาธิ นั่งตัวตรง ยกมือทั้งสองข้างให้แขนทั้งสองข้างกลางออกพอประมาณ ไม่หนีบแขน จับขลุ่ยและปี่ในท่าสบาย ไม่เกร็ง โดยใช้มือ ขวาอยู่ด้านบนมือซ้ายอยู่ด้านล่าง ๒. เมื่อบรรเลงเสร็จ ควรทำความสะอาดโดยการนำส่วนที่เปียกน้ำลายไปล้างด้วยน้ำสะอาดส่วนใดที่ไม่ถูก น้ำลายให้ใช้ผ้าเช็ด ๓. ไม่ควรวางขลุ่ยหรือปี่วางไว้กับพื้น สามารถกลิ้ง หรือตกทำให้แตกได้ ๔. ควรเก็บใส่กล่องหรือถุงให้เรียบร้อย
เมื่อบรรเลงเสร็จควรปิดฝาขิม ๓. การเก็บไม้ขิมควรมีกล่องใส่ที่มิดชิด หรือถ้าเป็นถุงต้องระมัดระวังจากการกระทบกระเทือนเพราะไม้ตีมี ความอ่อนแอมาก ๔. การทำความสะอาดขิม ควรใช้ที่ปัดฝุ่นหรือแปรงขนาดเล็กปัด เพราะผ้าไม่สามรถเข้าไปในซอก เล็กๆของ ขิม ได้ กลอง ๑ ในกรณีกลองประเภทที่ต้องใช้ข้าวติดหน้ากลอง ให้ทำความสะอาดโดยการใช้ผ้าเปียกน้ำพอหมาดๆเช็ดหน้ากลองให้สะอาด ๒ นำกลองที่ทำความสะอาดแล้วใช้ผ้าคลุมหรือนำผ้าไปตัดเป็นถุงใส่ เพื่อกันความชื้น ๓ ตรวจสอบคุณภาพความตึงของเสียงกลองให้ได้มาตรฐานอยู่เสมอ (ย้อนกลับ) วิธีการใช้และการดูแลรักษาเครื่องดนตรีไทยประเภทเครื่องสี ซอด้วงและซออู้ ๑. ผู้บรรเลงควรขึ้นสายซอ และเลื่อนหย่องหรือหมอน(ใช้หนุนสายซอ) ให้อยู่กึ่งกลางของหน้าซอ จากนั้นเทียบเสียงของซอตามประเภทซอนั้นๆ ผู้บรรเลงนั่งตัวตรง มือซ้ายจับคันซอเพื่อกด สายซอ มือขวา จับคันชักวางกะโหลกซอตรงหน้าขาซ้ายข้างลำตัวของผู้บรรเลง ๒. เมื่อบรรเลงเสร็จ ควรลดสายและปลดหย่อง เลื่อนหมอนขึ้นไว้บนขอบกะโหลกซอ เพื่อป้องกัน หน้าซอยุบตัวจากการกดทับของสาย และเก็บคันชักซอคล้องไว้กับลูกบิด โดยนำส่วนที่ใช้จับขึ้น ด้านบน ๓. ควรใช้ผ้าที่มีความนุ่มและแห้งเช็ดซอทุกครั้งจากการบรรเลงเสร็จโดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วน กะโหลกซอ เพราะจะมีฝุ่นของยางสนติดสะสมอยู่ ๔.