ระบบระบุตัวตนด้วยคลื่นวิทยุ มักจะใช้ในงานด้าน การรักษาความปลอดภัย การต่อต้านการจารกรรม ควบคุมสั่งการ ลำเลียงผลิตภัณฑ์ ควบคุมรายการสินค้า การจัดการทรัพย์สิน 6. ระบบแพร่กระจายข่าวสาร วิทยุที่ใช้เทคนิคการมอดูเลตเชิงขนาดและเชิงความถี่ โทรทัศน์ ระบบกระจายภาพและเสียงชนิดตรงสู่ที่พัก 7. กิจการทางหลวงและการขนส่ง ใช้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ใช้ระบุตำแหน่ง ใช้ตรวจจับความเร็วรถยนต์ ควบคุมและรักษาระดับความเร็วรถยนต์ใช้นำทางอัตโนมัติ ควบคุมการจราจร 8. ระบบเซนเซอร์ ตรวจจับความชื้น ตรวจจับอุณหภูมิ การตรวจตราการจราจร เซนเซอร์อุตสาหกรรม 9. การเฝ้าระวัง และการต่อต้านและการทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์ [2] สงครามอิเล็กทรอนิกส์ เป็นกรณีพิเศษ ที่ใช้เทคนิคขั้นสูงเป็นการเฉพาะสำหรับวัตถุประสงค์ด้านกิจการทหาร การเมืองระหว่างประเทศ และทางธุรกิจ ผ่านเครื่องมือและวิธีการเช่นดาวเทียมจารกรรม การส่งสัญญาณรบกวน การต่อต้านการส่งสัญญาณรบกวน การเคลื่อนย้ายทหาร การตรวจจับผู้บุกรุก 10. การประยุกต์ใช้งานทางการแพทย์ [4] ' [5] ซึ่งเริ่มต้นจากการใช้คลื่นไมโครเวฟทำลายเซลมะเร็ง หลังจากนั้นไม่นานการประยุกต์ใชทางการแพทย์ เริ่มมีเพิ่มขึ้นหลากหลาย เช่นการเอ็กซ์เรย์ช่วยให้แพทย์สามารถรักษาผู้ป่วยกระดูกหักได้สะดวกและตรงจุดมากยิ่งขึ้น การสแกนภาพอวัยวะภายในร่างกายผู้ป่วยด้วยเครื่องสร้างภาพแบบแม็กเนติก เรโซแนนซ์ เป็นต้น วิเศษ ศักดิ์ศิริ เขียน 11.
Home > MRI (Magnetic Resonance Imaging) การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI คืออะไร?
รังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet rays) รังสีอัลตราไวโอเลต หรือ รังสีเหนือม่วง มีความถี่ช่วง 1015 - 1018 Hz เป็นรังสีตามธรรมชาติจากการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์สามารถทำให้เชื้อโรคบางชนิดตายได้ แต่มีอันตรายต่อผิวหนังและตาคน 6. รังสีเอกซ์ (X-rays) รังสีเอกซ์ มีความถี่ช่วง 1016 - 1022 Hz มีความยาวคลื่นระหว่าง 10-8 - 10-13 เมตร ซึ่งสามารถทะลุสิ่งกีดขวางหนา ๆ ได้ หลักการสร้างรังสีเอกซ์คือ การเปลี่ยนความเร็วของอิเล็กตรอน มีประโยชน์ทางการแพทย์ในการตรวจดูความผิดปกติของอวัยวะภายในร่างกาย ในวงการอุตสาหกรรมใช้ในการตรวจหารอยร้าวภายในชิ้นส่วนโลหะขนาดใหญ่ ใช้ตรวจหาอาวุธปืนหรือระเบิดในกระเป๋าเดินทาง และศึกษาการจัดเรียงตัวของอะตอมในผลึก 7. รังสีแกมมา (Y-rays) รังสีแกมมามีสภาพเป็นกลางทางไฟฟ้ามีความถี่สูงกว่ารังสีเอกซ์ เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์และสามารถกระตุ้นปฏิกิริยานิวเคลียร์ได้ มีอำนาจทะลุทะลวงสูง
การประยุกต์ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (ฟิสิกส์ ม 6 เล่ม 6 บทที่ 18) - YouTube
ประโยชน์ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน อย่างกว้างขวาง เช่น 1. คลื่นวิทยุ คลื่นวิทยุมีความถี่ช่วง 104 - 109 Hz( เฮิรตซ์) ใช้ในการสื่อสาร คลื่นวิทยุมีการส่งสัญญาณ 2 ระบบคือ 1. 1 ระบบเอเอ็ม (A. M. = amplitude modulation) ระบบเอเอ็ม มีช่วงความถี่ 530 - 1600 kHz( กิโลเฮิรตซ์) สื่อสารโดยใช้คลื่นเสียงผสมเข้า ไปกับคลื่นวิทยุเรียกว่า "คลื่นพาหะ" 1. 2 ระบบเอฟเอ็ม (F. = frequency modulation) ระบบเอฟเอ็ม มีช่วงความถี่ 88 - 108 MHz (เมกะเฮิรตซ์) 2. คลื่นโทรทัศน์และไมโครเวฟ คลื่นโทรทัศน์และไมโครเวฟมีความถี่ช่วง 108 - 1012 Hz มีประโยชน์ในการสื่อสาร 3. รังสีอินฟาเรด (infrared rays) รังสีอินฟาเรดมีช่วงความถี่ 1011 - 1014 Hz หรือความยาวคลื่นตั้งแต่ 10-3 - 10-6 เมตร ซึ่งมีช่วงความถี่คาบเกี่ยวกับไมโครเวฟ รังสีอินฟาเรดสามารถใช้กับฟิล์มถ่ายรูปบางชนิดได้ และใช้เป็นการควบคุมระยะไกลหรือรีโมทคอนโทรเลขกับเครื่องรับโทรทัศน์ได้ 4. แสง (light) แสงมีช่วงความถี่ 1014Hz หรือความยาวคลื่น 4x10-7 - 7x10-7 เมตร เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ประสาทตาของมนุษย์รับได้ สเปคตรัมของแสงสามารถแยกได้ 7 สี คือ สีม่วง สีน้ำเงิน สีเขียว สีเหลือง สีแสด สี แดง 5.
4 uT หรือ 4 mG เป็นเวลานาน มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว มากถึง 2 เท่า และพบว่าคนที่ใช้มือถือนานเกินกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน หากเป็นมะเร็งในบางส่วนของร่างกาย มักจะเป็นข้างเดียวกับมือที่ถนัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: ● ซื้อ เครื่องทดสอบสนามแม่เหล็กไฟฟ้า Lutron EMF-822A คลิ๊กเลย!! ● เลือกซื้อ เครื่องวัดไฟฟ้า คลิ๊ก ● สามารถเยี่ยมชม บทความจาก LEGA Corparation ได้ที่นี ่ ● โทร. 02-746-9933 ● LINE: @lega
1. ประโยชน์ของคลื่นวิทยุ [ แก้] การสื่อสารถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับมนุษย์เรา เรามีการติดต่อสื่อสารกันหลายลักษณะนอกเหนือจากการพูดคุยกัน การใช้วิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับมนุษย์ที่จะรับทราบความเป็นไปต่างๆซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะทำงานได้ต้องอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เรียกว่า คลื่นวิทยุ 2. ประโยชน์ของคลื่นไมโครเวฟ ได้มีการนำคลื่นไมโครเวฟมาใช้เพื่อตรวจหาตำแหน่ง โดยในช่วงความยาวคลื่นประมาณ 0. 5 cm. - 1 m. เป็นเรดาร์จับวัตถุที่เคลื่อนไหว เช่น วัตถุหรือเครื่องบินในอากาศ เป็นต้น ใช้เป็นแหล่งกำเนิดความร้อน เช่น ทำให้อาหารสุกโดยใช้เตาไมโครเวฟ เป็นต้น 3. ประโยชน์ของรังสีอินฟาเรต มีการนำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงรังสีอินฟาเรต มาใช้ประโยชน์ในการค้นหาสัตว์ป่าในที่มืดเพื่อการศึกษา ใช้ในการถ่ายรูปในช่วงที่มีเมฆ หมอก หนาทึบหรือทัศนวิสัยไม่ดี ใช้อบอาหารในเตาที่ใช้รังสีอินฟาเรต ใช้ในอุตสาหกรรมอบสี ใช้ในการรักษาโรคผิวหนังบางชนิด 4. ประโยชน์ของรังสีอัลตาไวโอเลต การรับรังสีอัลตาไวโอเลตในปริมาณที่ไม่มากจนเป็นอันตราย จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ ในการช่วยสร้างวิตามินดี แต่การรับในปริมาณที่มากเกินไปจะเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งที่ผิวหนังได้ การนำรังสีอัลตาไวโอเลตมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ มีหลายประการ เช่น การใช้รังสีอัลตาไวโอเลตในการแพทย์โดยใช้ฆ่าเชื้อโรค ทำความสะอาดเครื่องมือแพทย์ ใช้รักษาอาการตัวเหลืองในเด็กทารก ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตอาหารโดยนำรังสีอัลตาไวโอเลตมาใช้ฆ่าเชื้อโรค 5.
ระบบการสื่อสารแบบไร้สาย ใช้งานด้าน กิจการอวกาศ การสื่อสารระยะไกล โทรศัพท์ไร้สาย โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเซลลูลาร์ ระบบการสื่อสารส่วนบุคคล ข่ายงานสื่อสารข้อมูลท้องถิ่น การสื่อสารกับอากาศยาน กิจการทหารเรือ การติดต่อยานพาหนะ กิจการดาวเทียม เป็นต้น 2. ระบบเรดาร์ [1] ซึ่งเริ่มมีบทบาทอย่างมากตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เพื่อตรวจจับอากาศยานที่บุกรุกเข้ามา หลังจากผ่านพ้นสงครามโลกครั้งที่สองเรดาร์ก็พัฒนาขีดความสามารถให้สูงขึ้นสามารถใช้ได้ในหลากหลายการประยุกต์ใช้งานเช่น การเดินเรือ การทหารเรือ การติดต่อกับยานพาหนะ การตรวจและพยากรณ์อากาศ การควบคุมการจราจร การตำรวจ อาวุธนำวิถี การช่วยเหลือผู้ประสบภัย เป็นต้น 3. เทคโนโลยีนำร่อง ระบบไมโครเวฟสำหรับนำอากาศยานลงจอด การบอกพิกัดตำแหน่งบนโลก สัญญาณช่วยนำทาง เรดาร์ช่วยหาตำแหน่งสัตว์น้ำ ระบบนำร่องสำหรับช่วยขับอากาศยานแบบอัตโนมัติ การเดินเรือสมุทร กิจการกองทัพเรือ เป็นต้น 4. ระบบตรวจจับระยะไกล เช่นระบบเฝ้าระวังสภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลก อุตุนิยมวิทยา การเฝ้าระวังมลพิษ การปกปักษ์รักษาป่า การตรวจเก็บสภาวะความชื้นของดิน กิจการด้านพฤกษศาสตร์ ด้านเกษตรกรรม การสำรวจแหล่งน้ำและทรัพยากรธรรมชาติ สมุทรศาสตร์ การศึกษาลักษณะพื้นผิวโลก การจราจรทางน้ำและทางอากาศ เป็นต้น 5.