บริการต้องดีและรวดเร็ว หากธนาคารไหนบริการดีและรวดเร็ว ทั้งเรื่องการให้ข้อมูล กระบวนการพิจารณาสินเชื่อ การติดตามความคืบหน้าระหว่างกู้ รวมถึงการตอบคำถามเวลามีข้อสงสัยด้วย หากเราเลือกธนาคารที่บริการไม่ตรงใจ อาจจะทำให้การขอสินเชื่อของเรามีปัญหาได้หรือล่าช้าได้นะครับ 4. ต้องสะดวกและอนุมัติง่าย การกู้เงินสร้างบ้านนั้นมีขั้นตอนในการยื่นเอกสารและอนุมัติ ฉะนั้นการเลือกธนาคารที่มาโอกาสอนุมัติสินเชื่อให้เราได้ง่ายจะดีกว่า ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้อนุมัติง่ายนั้นมาจากความสามารถในการผ่อนของผู้ขอกู้ หลักประกัน อาชีพ ฐานเงินเดือน ประวัติการชำระหนี้ เอกสารต่างๆ ที่ประกอบการพิจารณา จำนวนวงเงินสินเชื่อ เป็นต้น 5. เลือกกู้กับธนาคารที่มีบัญชีเงินเดือนอยู่แล้วจะดีกว่า หากใครเป็นมนุษย์เงินเดือน และจะขอสินเชื่อสร้างบ้าน การขอกู้เงินเดือนกับธนาคารที่เราใช้เป็นบัญชีเงินเดือนอยู่จะทำให้การประเมินเอกสารแสดงรายได้ง่ายขึ้น อีกทั้งในบางครั้งธนาคารอาจมีโปรฯสินเชื่อสร้างบ้านพิเศษสำหรับลูกค้าที่เป็นลูกค้าเดิมอยู่แล้วอีกด้วย ฉะนั้นหากมีบัญชีเงินเดือนอยู่อย่าลืมสอบถามธนาคารนั้นด้วยนะครับว่ามีโปรฯ สินเชื่อสร้างบ้านอย่างไรบ้าง 6.
3 ล้านบาท (ทุกแบบผมกำหนดให้ดอก 0% 3 เดือนแรก เดือนที่ 4-12 ดอกพิเศษ 4. 75% หลังจากนั้น MLR -1%) แถวที่ 1 เป็นการคำนวณในกรณีที่ผมส่งเดือนละ 15, 300 กว่าบาท ถ้าผมส่งด้วยยอดนี้ไปเรื่อย ๆ จะ - ใช้เวลา 22 ปี 7 เดือน กว่าจะปิดต้นที่กู้มาได้หมด - โดนดอกเบี้ยไปประมาณ 1. 68 ล้านบาท แถวที่ 2 เป็นการคำนวณในกรณีที่ผมส่งเดือนละ 25, 700 กว่าบาท - ใช้เวลา 9 ปี 10 เดือน กว่าจะปิดต้นที่กู้มาได้หมด - โดนดอกเบี้ยไปประมาณ 6. 5 แสนบาท แถวที่ 3 เป็นการคำนวณในกรณีที่ผมส่งเดือนละ 38, 428 กว่าบาท - ใช้เวลา 5 ปี 10 เดือน กว่าจะปิดต้นที่กู้มาได้หมด - ดนดอกเบี้ยไปประมาณ 3. 5 แสนบาท แถวที่ 3 มองผ่านไปก็ได้ เพราะส่งเยอะขนาดนั้น ย่อมหมดเร็ว ดอกน้อย แต่ถ้าลองเทียบแถวแรกกับแถวที่สอง จะพบว่าการส่งต้นมากกว่าขั้นต่ำแค่หมื่นเดียว สามารถลดเวลาการผ่อนไปได้ 12 ปี (เหลือ 9 ปีกว่า เกือบ 10 ปี) และลดดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาไปได้ 1 ล้านบาท (เหลือ 6 แสนกว่า) คำถามคือ ทำไมส่งเดือนละน้อย ๆ ดอกถึงบาน?
(2, 000, 000 x 3% x 31) ÷ 365 จะเท่ากับดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในงวดแรกหรืองวดที่ 1 คือ 5, 095. 89 บาท 2. ทั้งนี้ขอสมมุติให้เงินที่ต้องจ่ายในงวดเป็น 25, 000 บาท ดังนั้นก็จะทำให้ได้เงินต้นที่ลดลงดังนี้ 25, 000 - 5, 095. 89 จะเท่ากับได้เงินต้นที่ลดลง 19, 904. 11 บาท 3. 2, 000, 000 - 19, 904. 11 จะเท่ากับเงินต้นคงเหลือเพื่อใช้คิดดอกเบี้ยสำหรับงวดต่อไปคือ 1, 980, 095 บาท ดังนั้นพองวดถัดไป เราก็ก็จะคิดดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านในแบบเดิมที่คิดมาเมื่อตอนต้นครับ เพียงแต่รอบต่อไปเงินต้นของเราจะคงเหลือ 1, 980, 095 บาทครับ 2. วิธีคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเฉลี่ย 3 ปีแรก นอกจากลองคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านในแต่ละงวดแล้ว เราต้องมาลองคำนวณและเปรียบเทียบดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเฉลี่ย 3 ปีแรก ซึ่งที่เป็น 3 ปีนั้น เพราะธนาคารส่วนใหญ่อาจมีการคำนวณมาให้แล้ว เนื่องจากระยะเวลา 3 ปี มักเป็นระยะเวลาที่สามารถจะรีไฟแนนซ์ธนาคารใหม่หรือรีเทนชันกับธนาคารเดิมได้ โดยที่เราอาจไม่เสียค่าปรับเพิ่ม เรามาดูกันครับว่าถ้าเราจะคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเฉลี่ย 3 ปีแรก เพื่อเปรียบเทียบกับแต่ละธนาคารนั้นจะคำนวณอย่างไร วิธีคิดดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเฉลี่ย 3 ปีแรกมีดังนี้ 1.
75% และผ่อนได้นานสูงสุด 30 ปี ธนาคารยูโอบี สำหรับสินเชื่อสร้างบ้านของธนาคารยูโอบี(UOB) นั้นจะให้วงเงินกู้สูงสุด 85% ของราคาประเมินที่ดินรวมกับค่าก่อสร้างบ้าน (70% ของราคาประเมินที่ดิน บวก 100% ของราคาประเมินค่าก่อสร้างบ้าน) อีกทั้งยังทราบผลพิจารณาเบื้องต้นใน 3 วันทำการเท่านั้น โดยดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี สำหรับคนที่ทำประกัน MRTA กับธนาคารด้วยจะอยู่ที่ 3. 55% แต่สำหรับคนที่ไม่ทำประกัน MRTA จะอยู่ที่ 3. 75% ซึ่งสามารถผ่อนได้นานสูงสุด 30 ปี แต่สินเชื่อสร้างบ้านนี้มีข้อกำหนดว่าจะผู้กู้จะต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 20, 000 บาทต่อเดือน ถ้าสนใจสินเชื่อนี้จะต้องรีบสมัครสักหน่อยภายใน 31 มีนาคม 64 และจดจำนองภายใน 30 เมษายน 64 เท่านั้นนะครับ ธนาคารกรุงไทย สินเชื่อสร้างบ้านของธนาคารกรุงไทยก็มีสินเชื่อสร้างบ้านที่ให้ดอกเบี้ยสูงสุด 100% พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมยื่นกู้ ผ่อนได้นานสุงสุด 30 ปี และดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้น 0. 64% ต่อปี สำหรับดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีของผู้กู้ที่ทำประกัน MRTA จะอยู่ที่ 2. 83% และสำหรับผู้ที่ไม่ทำประกัน MRTA จะเท่ากับ 2. 93% ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ก็มีสินเชื่อสร้างบ้านให้กู้เช่นกัน โดยให้วงเงินกู้ที่ให้สูงสุด 100% จากราคาประเมินหลักประกัน สำหรับดอกเบี้ยนั้นจะเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ธนาคารกรุงเทพ สินเชื่อบ้านบัวหลวง ของธนาคาร กรุงเทพ หากจะกู้เงินสร้างบ้านนั้นจะได้วงเงินสูงสุด 70-95% ของมูลค่าหลักประกัน หากเป็นมีรายได้ประจำ แล้วกู้วงเงินตั้งแต่ 1 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท ปีแรกจะได้ดอกเบี้ย MRR-1.
เมื่อเราเตรียมตัวพร้อมแล้วในการกู้สินเชื่อสร้าง บ้าน ทั้งเอกสาร ทั้งแบบบ้าน ที่ดิน และศึกษาค่าใช้จ่ายต่างๆ เรียบร้อยแล้ว หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราจะต้องคิดให้หนักคือ สินเชื่อสร้างบ้าน ธนาคารไหนดี ที่สุดในปี 2564 กันแน่ แล้วจะมีวิธีเลือกอย่างไรได้บ้าง บทความนี้จะมาบอกวิธีการเลือกว่าเราจะสมัครสินเชื่อสร้างบ้าน ของธนาคารไหนดีนั้น เราจะต้องเปรียบเทียบด้วยข้อมูลเบื้องต้นของแต่ละธนาคาร ดังนี้ 1. วงเงินกู้สูงเพียงพอที่จะใช้ วงเงินกู้สินเชื่อสร้างบ้านที่ดี จะต้องเป็นวงเงินกู้ที่ครอบคลุมกับค่าก่อสร้างและตกแต่งบ้านของเราได้ ซึ่งวิธีการประเมินเงินกู้ของแต่ละธนาคารนั้น แม้จะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละธนาคาร แต่ก็จะมีปัจจัยหลักๆ คือ วงเงินที่ขอ ความสามารถในการผ่อนของผู้กู้ ประวัติทางการเงินของผู้กู้ และหลักประกันที่นำมาใช้ ซึ่งวงเงินนี้เราควรยื่นขอกู้ในหลายธนาคารแล้วมาเขียนเปรียบเทียบกันว่าธนาคารไหนให้วงเงินเท่าไร ที่ไหนให้วงเงินสูงที่สุด และต้องจ่ายอย่างไร ดอกเบี้ยเท่าไร หรือมีเงื่อนไขอะไรบ้างเทียบกันไปเป็นข้อๆ 2.
ศ. 2562 เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 ก. ย. 2562 Refinn Writer ช่วยเปรียบเทียบโปรโมชั่นที่ประหยัดดอกเบี้ยที่สุด ฟรี ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม
× - เลือกประเภท และยี่ห้อรถ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ เชียงใหม่ นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา สมุทรสาคร สุราษฎร์ธานี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครศรีธรรมราช อุบลราชธานี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี นครสวรรค์ บุรีรัมย์ สุพรรณบุรี กำแพงเพชร มหาสารคาม เพชรบูรณ์ กาฬสินธุ์ อุตรดิตถ์ สิงห์บุรี หนองบัวลำภู สมุทรสงคราม อำนาจเจริญ อุทัยธานี แม่ฮ่องสอน วันนี้มีอัตราดอกเบี้ย รีไฟแนนซ์บ้าน แต่ละโปรโมชั่น 6 อันดับแรกมาให้ดูกันชัดๆ ตามตารางด้านล่างเลยครับ สำหรับโปรโมชั่นแรก ดอกเบี้ยสามปีแรก 2. 90% จะเป็นโปรโมชั่นที่มีสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าที่สมัครผ่าน Refinn เท่านั้นครับ ถ้าเกิดเดินไปสมัครตามสาขาธนาคาร จะดอกเบี้ยสามปีแรกอยู่ที่ 3. 19% โดยจะต้องมีรายได้ต่อเดือน 20, 000 บาทขึ้นไปนะครับ สำหรับบางโปรโมชั่น จะมีฟรีค่าประเมินราคา ฟรีค่าจดจำนอง ฟรีค่าอากรสแตมป์ให้ด้วย แต่บางโปรโมชั่น ลูกค้าอาจจะต้องออกค่าใช้จ่ายเองครับ หากอยากรู้ว่าโปรโมชั่นไหน ฟรีค่าใช้จ่ายบ้าง หรือมีวงเงินกู้เพิ่มไหม สามารถเข้าไปค้นหาฟรี ได้ที่ โดยเราไม่เก็บค่าบริการใดๆ เพิ่มเติมครับ หมายเหตุ - ค่าใช้จ่าย รีไฟแนนซ์ จะคิดจากวงเงินของผู้กู้แต่ละราย จึงไม่สามารถแสดงค่าใช้จ่ายเฉพาะบุคคลได้ - MRR ของแต่ละธนาคารไม่เท่ากัน สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามเงื่อนไขของธนาคาร - โปรโมชั่นทั้งหมดนี้ ต้องมีรายได้ต่อเดือน 20, 000 บาทขึ้นไป - ข้อมูล ณ วันที่ 10 กันยายน พ.
เรายื่นขอกู้บ้านตั้งแต่สิ้นเดือนมกราคม ส่งเอกสารครบทุกอย่างเพื่อจะได้ประเมินเร็วๆว่าผ่านไม่ผ่าน จนมาถึงวันนี้ 31 มีนาคม 2565 คือต้องโทรตามถึงได้รู้ผล ไม่ผ่านก็แค่แจ้งว่าไม่ผ่านจะได้ไปทำอย่างอื่นต่อ ต้องใช้เวลา 2 เดือนในการประเมินเอกสารที่ครบทุกอย่าง ช่วยปรับปรุงระบบใหม่หน่อยเถอะคะ อย่าทำให้คนที่เค้ารีบต้องเสียเวลาเหมือนเราอีก ฝากถึงคนที่จะกู้บ้านนะคะ ถามให้แน่ชัดว่ากี่วัน และโทรเร่ง อย่าปล่อยแบบเราคะ ไม่งั้นเค้าก็ไม่สนใจ และก็อ้างระบบช่วงนี้ช้ากันหมด (ตอนนั้นเราถามบอกใช้เวลา 1 เดือน) แสดงความคิดเห็น