พยาธิสรีรวิทยาของภาวะความดันโลหิตสูงไม่สามารถอธิบายกลไกใดกลไกหนึ่งได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามภาวะนี้เป็นความผิดปกติของการควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติได้(MAP=COxTPR)ฉะนั้นปัจจัยใดก็ตามที่มีผลกระทบกับความดันโลหิตจะเกี่ยวข้องกับปริมาณเลือดที่ถูกบีบตัวออกจากหัวใจต่อนาที และความต้านทานปลายทางของหลอดเลือดเป็นสำคัญ ฉะนั้นกลไกการเกิดความดันโลหิตสูงต้องอธิบสยตามแต่ละสาเหตุ ซึ่งพอสรุปได้ดังนี้ 1. ค่าของ Cardiac output และความต้านทานรวมของหลอดเลือดอย่างใดอย่างหนึ่งสูงกว่าปกติ 2. ระดับ Renin ในเลือดสูง มีผลให้ Angiotensin II สูง 3. การเพิ่มการหลั่งของ Aldosterone 4. การทำหน้าที่ของระบบประสาทซิมพาเทติคมากกว่าปกติ 5. ความเครัยดทางจิตใจที่เป็นระยะเวลานาน 6. การบริโภคอาหารที่มีเกลือมาก 7. การขาดสารอาหารที่ทำให้หลอดเลือดแข็งตัว(vasodilator) เช่น prostaglandins kinins เป็นต้น 8. ภาวะของโรคที่มีผลกระทบทำให้เกิดการทำหน้าที่ของระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ 9.
ผลต่อตา - มีการเปลี่ยนแปลงของจอภาพนัยน์ตา หลอดเลือดแดงที่เรตินาจะมีการตีบตัวลง ถ้าเป็นมากๆพบว่าหลอดเลือดจะหดตัวเกล็งมีการบวมและเลือดออก และถ้ารุนแรงที่สุดก็จะมีการบวมบริเวณ Optic disk (papilledema) ทำให้สูญเสียการมองได้ แหล่งที่มา อ. นุชนาท ประมาคะเต. เอกสารประกอบการสอนวิชา พยาธิสรีรวิทยา
"นายกรัฐมนตรี" ห่วงสุขภาพประชาชน เสี่ยงเป็นโรคไข้เลือดออกในช่วงพายุฤดูร้อน แนะสังเกตอาการใกล้ชิด เพื่อการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม พร้อมเตือนภัยอันตรายจากสัตว์ดุร้ายและมีพิษที่มาพร้อมฝน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล. อ.
ผลต่อหัวใจและหลอดเลือด ส่งเสริมให้ผนังหลอดเลือดแข็งและหนาตัว และเร่งให้มีการเกาะของสารไขมันที่ผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น หัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น มีผลให้เกิด -หัวใจโต -กล้ามเนื้อหัวใจตายและมีอาการเจ็บหน้าอกสาเหตุจากเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจลดลง -หัวใจข้างซ้ายล้มเหลว เกิดขึ้นภายหลังจากแรงต้านทานของหลอดเลือดสูงนานๆทำให้กล้ามเนื้อหัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น และมีความต้องการใช้ออกชิเจนเพิ่มขึ้น -Dissecting aortic aneurysm ผลจากการที่มีความดันโลหิตสูงนานๆจะไปทำลายผนังหลอดเลือด Aorta และเกิดภาวะโป่งพองตามมา 2. ผลต่อสมอง ทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองอุดตันหรือแตกได้ ทำให้เกิด -Strokes ซึ่งมีกลไกการเกิดจาก 1. Multiple microaneurysms มีการโป่งพองของหลอดเลือดทั่วๆไปในสมองและทำให้มีการแตกของหลอดเลือดในสมองได้ 2. สมองขาดเลือดไปเลี้ยงชั่วคราวหรือเชลล์สมองตาย ( Transient Ischemic attacks or Cerebral Infarction) ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการแข็งตัวของหลอดเลือด -Hypertensive Encephalopathy พบว่าความดันของหลอดเลือดแดงจะสูงขึ้นชั่วคราว ทำให้มีอาการสับสน ชัก และหมดสติ 3. ผลต่อไต - เกิดภาวะไตวายซึ่งเป็นผลมาจากมีการตีบแข็งของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงไตและหลอดเลือดแดงฝอยที่ไปเลี้ยงไตมีการตายเฉพาะที่ 4.