กิจวัตรประจำวันก่อนไปโรงเรียน โดยวันจันทร์-ศุกร์ให้จัดตารางสิ่งที่ลูกต้องทำให้เกิดเป็นความเคยชินและเป็นระบบระเบียบ 2. ทบทวนแผนก่อนนอน พูดคุยกับลูกสักครึ่งชั่วโมงก่อนนอน เช่น วันนี้หนูเรียนอะไรมาบ้าง เพื่อนที่โรงเรียนน่ารักมั้ย เพื่อเป็นการสร้างความรักความผูกพันกันก่อนนอน ที่สำคัญอย่าลืมชวนลูกทบทวนตารางเวลาที่เราต้องทำพรุ่งนี้ 3. ฝึกวางแผนง่ายๆ ในครัว ชวนลูกทำในสิ่งที่ชอบหรือสนใจ และเรียนรู้ถึงองค์ประกอบและวิธีการของสิ่งที่จะทำเพื่อฝึกกระบวนการคิดและการวางแผนอย่างเป็นระบบ 4. วางแผนการออมเงิน โดยให้ลูกตั้งเป้าหมายในการออมเงินว่าจะออมเพื่ออะไร เช่น ให้ลูกเก็บเงินซื้อการ์ตูนเรื่องใหม่ด้วยตัวเอง เราก็จะได้ดูวิธีที่เขาใช้ในการเก็บเงิน ลูกอาจบอกว่าวันนี้จะไม่กินขนม ไม่ซื้อของเล่นอื่น เพื่อเป้าหมายใหญ่ หรือเป้าหมายที่ตัวเองต้องการในระยะยาว เมื่อลูกวางแผนเสร็จแล้ว พ่อแม่จะต้องติดตามผลของการกระทำของลูกด้วยว่าเขาสามารถทำได้จริงหรือไม่ ถ้าได้ก็ให้ชมเชยตามสมควร แต่ถ้าลูกทำไม่ได้ก็อย่าเพิ่งไปตำหนิ แต่ควรให้กำลังใจเพื่อให้เขาอยากทำให้ได้จนสำเร็จ เมื่อลูกเริ่มโตก็ลองให้โจทย์ที่ยากและท้าทายขึ้นเพื่อฝึกทักษะเชาว์ปัญญา การแก้ปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น 5.
การศึกษาเรื่องการดำรงชีวิตและครอบครัวสามารถแบ่งรายละเอียดได้ดังนี้ 1. ความหมายของงานบ้าน งานบ้าน หมายถึง กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการดำรงชีวิตประจำวันในการสร้างความสุขของสมาชิกทุกคนในบ้าน ซึ่งต้องปฏิบัติเป็นประจำ โดยอาศัยความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจของสมาชิก ทุกคนในบ้าน 2.
2 เรียนรู้วิธีเข้าใจอารมณ์ตัวเอง ด้วยการฝึกสติเพื่อให้รู้สึกตัว รู้ว่าปัจจุบันตนเองมีอารมณ์ความรู้สึกอย่างไร รู้ตัวว่าความกังวล ความเครียด ความกลัว มีสาเหตุจากอะไร 4. 3 มีทักษะในการจัดการอารมณ์ตนเอง เมื่อเกิดความเครียดหรือความเศร้า สามารถปลุกปลอบให้กำลังใจตนเอง สร้างแรงจูงใจในการกระทำสิ่งต่างๆ สร้างความรู้สึกดีต่อตนเอง ให้อภัยตนเองได้ 4. 4 รู้จักวิธีผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน หาวิธีการคลายความเครียดหลังเลิกงาน เช่น ออกกำลังกาย เล่นกีฬา เล่นดนตรี ทำงานอดิเรก ศิลปะ หามุมสงบกับธรรมชาติเพื่อพักผ่อนจิตใจ 4. 5 สร้างวิธีคิดบวก ฝีกมองโลกในแง่ดี ฝึกคิดหลายมุมมอง มีอารมณ์ขันและทักษะในการแก้ปัญหา ฝึกใจให้คุ้นเคยกับการยอมรับสิ่งต่างๆที่เปลี่ยนแปลงในชีวิต จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นเคล็ดลับ 4 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน หากผู้อ่านเข้าใจแล้วนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากแนวทางปฏิบัติดังกล่าวแล้วยังมีแนวทางอื่นๆ ที่สามารถทำได้อีกหลากหลายรูปแบบ สุดท้ายแล้วหัวใจสำคัญที่สุดในการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน คือ ความใส่ใจที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นนั่นเอง