M. diversifolia (Wall ex G. Don) Havil. กระทุ่ม กระท่อมขี้หมู กระทุ่มดง กระทุ่มนา ท่อมขี้หมู ตุ้มน้ำ 2. hirsuta Havil. กระทุ่มโคก ตุ้มเขา ทุ่มพาย 3. parvifolia Korth. กระทุ่มใบเล็ก 4. rotundifolia (Roxb. ) Kuntze กระทุ่มเนิน แก่นเหลือง ตุ้มกว้าว 5. speciosa (Korth.
Havil. ทั้งหมดแต่เมื่อแบ่งย่อยอย่างละเอียดในปัจจุบันพบว่ามีหลายสายพันธ์เป็นเวริเอชั่นย่อยด้วยกัน ตามลักษณะที่แตกต่างตามฟอร์มของรูปใบและสรรพคุณหรือรสชาติ 1. กระท่อมสายพันธุ์ก้านแดง เมามาก นิยมต้ม ไม่นิยมเคี้ยวเนื่องจากเมามาก บางทีทำให้ปวดหัว 2. กระท่อมสายพันธุ์แตงกวา ก้านสีเขียว ใบเรียวยาวผิวหยาบใบนิ่ม มีทั้งสายพันธ์ใต้(ใบเรียวกว่า ใบจะหยาบๆ นิ้มๆ บางทีกลายไปเป็นใบยาวๆคล้ายใบมะม่วง) กับสายพันธ์แตงกวาภาคกลาง(ใบป้อมกว่า ใบจะมันๆ แข็งกว่า) 3. กระท่อมสายพันธุ์ใบมาเลย์ ใบบาง มักมีเม็ดขาวๆใต้ใบ (บางทีเรียกเม็ดเย็ะนาน 555) 4. กระท่อมสายพันธุ์โพธิ์ทอง ใบใหญ่คล้ายใบโพธิ์ ใบใหญ่ๆ 5. กระท่อมสายพันธุ์เหรียญทอง กระท่อมสายพันธ์ภาคกลาง ใบบางอ้วน ปลายแหลม ใบกรอบๆ คนเคี้ยวชอบมาก 6.
4% อิชิตัน รวมกับเย็นเย็น 31. 7% กลยุทธ์ของโออิชิ ในธุรกิจชาเขียวไตรมาสแรกเป็นกลยุทธ์ที่ต่อเนื่องจากปี 2562 ในการขยายฐานลูกค้าใหม่ไปยังกลุ่มที่เล่นเกม ROV ผ่านแคมเปญ โออิชิ X ROV ลุ้นไอเทม ROV จากรหัสโออิชิใต้ฝาและลุ้นรางวัลอื่น ๆ และการเปิดตัวโออิชิ โกลด์ ชาเขียวพรีเมียม รสชาติใหม่ เกียวคุโระ มีเป๊ก ผลิตโชคเป็นพรีเซนเตอร์ ขยายฐานลูกค้าไปยังแฟนคลับเป๊ก และเข้าถึงคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายหลักที่วางไว้คือ วัยรุ่น นักศึกษา และคนทำงาน สำหรับเดือนมกราคม-มีนาคมของปี 2563 โออิชิมีรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 1, 562 ล้านบาท ลดลง122 ล้านบาท หรือ 7. 2% จากช่วงเดียวกันปี 2562 การลดลงของรายได้โออิชิมาจากรายได้จากตลาดกัมพูชา และลาว ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของโออิชิลดลงจากผลกระทบด้านโควิด-19 ส่วน อิชิตันรุกตลาดไตรมาสแรก ผ่านชาเขียวพรีเมียม ชิซึโอกะ พร้อมกับการผลักดันตลาดเมนสตรีมผ่านเครื่องดื่มขนาด 280 มิลลิลิตร ในราคาขวดละ 10 บาท เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อน้อยลงจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการรุกตลาดขวดละ 10 บาท อิชิตันสร้างการเติบโตในชาเขียวเมนสตรีมในไซส์ขนาด 280 มิลลิลิตรได้มากถึง 70.
2 ล้านลิตร เหลือเพียง 982 ล้านบาท 24. 4 ล้านลิตรเท่านั้น การลดลงของตลาดชาเขียวนี้มาจาก 1. การชะลอตัวของเศรษฐกิจ จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคลดการบริโภคเครื่องดื่มอย่างเช่น ชาเขียวลง 2. แม้ตลาดเครื่องดื่มปีนี้ไม่คึกคักเหมือนที่ผ่านมา แต่ตลาดนี้ยังมีการแข่งขันกันสูงจากคู่แข่งชาเขียวและเครื่องดื่มอื่น ๆ อย่างน้ำอัดลม ในรูปแบบของชิงโชค แคมเปญ ณ จุดขาย ช่องทางจัดจำหน่ายเพื่อดึงเม็ดเงินผู้บริโภคที่มีเหลือในกระเป๋าให้ตัดสินใจซื้อเครื่องดื่มแบรนด์ตัวเองแทนคู่แข่งสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจในช่วงวิกฤตนี้ และถ้ามองไปที่ภาพรวมของไตรมาสแรกปี 2563 ตลาดชาเขียวมูลค่า 2, 782 ล้านบาท ลดลง 5. 6% จากไตรมาสแรกปี 2562 ที่มีมูลค่า 2, 949 ล้านบาท ส่วนยอดการบริโภคเหลือเพียง 68. 5 ล้านลิตร ลดลง 6. 7% จาก 73. 4 ล้านลิตร ตลาดชาเขียวไตรมาสแรกปี 2563 ม. ค. 63 941 ล้านบาท 22. 9 ล้านลิตร ก. พ. 63 860 ล้านบาท 21. 1 ล้านลิตร มี. 63 982 ล้านบาท 24. 4 ล้านลิตร แม้ตลาดชาเขียวในกลุ่มเมนสตรีมยังคงเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนมากที่สุดในตลาดถึง 67% มีมูลค่าลดลง 3. 5% จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา กลุ่มที่มีการเติบโตในตลาดชาเขียวมีเพียงกลุ่มเดียวคือตลาดชาเขียวพรีเมียมมีการเติบโต 6.